
บทบาท HR Business Partner (HRBP) ได้รับการพูดถึงอย่างแพร่หลายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา องค์กรจำนวนมากเริ่มมองว่า HRBP เป็นกุญแจสำคัญในการเชื่อมโยงกลยุทธ์ด้านบุคลากรเข้ากับเป้าหมายทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม หลายองค์กรในประเทศไทยยังไม่สามารถผลักดัน HR สู่บทบาทนี้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งบทความนี้จะมาวิเคราะห์สาเหตุหลักๆ ของเรื่องดังกล่าว พร้อมแนวทางการแก้ไขเพื่อให้ HR ในประเทศไทยสามารถก้าวสู่บทบาท HRBP ได้อย่างเต็มศักยภาพ
🧐 Fun Fact: องค์กรที่สร้าง HRBP ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้มากถึง 22% เพิ่มการรักษาพนักงานได้มากถึง 24% เพิ่มรายได้ได้มากถึง 7% และเพิ่มกำไรได้มากถึง 9% (Gartner)
อุปสรรคสำคัญสำหรับ HR ในประเทศไทย ในการเปลี่ยนแปลงสู่บทบาท HRBP
1. ภาระงานธุรการที่รัดตัว (Heavy Administrative Workload)

✅ HR ในไทยยังติดอยู่กับงานปฏิบัติการมากกว่างานเชิงกลยุทธ์: HR ในหลายองค์กรยังคงรับภาระหนักในงานธุรการ เช่น การคำนวณเงินเดือน การดูแลสวัสดิการ และการจัดการเอกสารต่างๆ ทำให้ไม่มีเวลาทำงานด้านกลยุทธ์ใกล้ชิดกับผู้บริหาร
✅ หลายองค์กรยังไม่ได้ใช้ HR Tech อย่างเต็มประสิทธิภาพ: การใช้ระบบ HRIS, ระบบอัตโนมัติ (Robotic Process Automation - RPA) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) สามารถช่วยลดเวลาทำงานเอกสารที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เช่น การประมวลผลข้อมูลพนักงาน และการคำนวณเกี่ยวกับสวัสดิการต่างๆ เป็นต้น ช่วยลดความผิดพลาด และเพิ่มความเร็วในการทำงานได้มาก แต่ HR ในองค์กรหลายแห่งในประเทศไทย ยังไม่สามารถผลักดันให้เกิดการลงทุนในระบบต่างๆ เหล่านี้ได้
แนวทางการแก้ไข:
💡 ผลักดันให้เกิดการนำเทคโนโลยีมาใช้ในงาน HR: การนำระบบต่างๆ มาช่วยในการทำงานนั้น ต้องอาศัยงบประมาณในการลงทุน ไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ ในองค์กร ดังนั้น HR ต้องมีทักษะในการบริหารจัดการงบประมาณของตนเอง เพื่อให้เพียงพอต่อการลงทุน หรือหากมีความจำเป็นต้องของบประมาณเพิ่มบางส่วน ก็ต้องมีทักษะในการนำเสนอผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on Investment - ROI) เพื่อให้ผู้บริหารมองเห็นความสำคัญของผลลัพธ์ทางธุรกิจและพิจารณาอนุมัติ
🧐 Fun Fact: จากการศึกษาในปี 2023 พบว่าองค์กรที่ใช้ Generative AI ขั้นสูงในการดำเนินงานด้านทรัพยากรบุคคล สามารถประหยัดต้นทุนด้านทรัพยากรบุคคลโดยรวมได้ 20-40% (McKinsey & Company) และผลิตภาพของทีมงาน HR เพิ่มขึ้น 20% (PwC HR Tech Survey)
2. การขาดความเฉียบคมทางธุรกิจและการสนับสนุนจากผู้บริหาร (Lack of Business Acumen & Executive Support)

✅ HR จำนวนมากยังขาดความเฉียบคมทางธุรกิจ: หลายองค์กรยังมองว่า HR เป็นฝ่ายสนับสนุนที่ดูแลพนักงาน มากกว่าการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ส่งผลให้ HR ขาดโอกาสในการเข้าไปมีบทบาทในวงประชุมสำคัญขององค์กร
✅ วัฒนธรรมองค์กรไทยยังให้ความสำคัญกับลำดับชั้นมากเกินไป: HRBP ต้องกล้าแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะกลยุทธ์ด้านบุคลากรอย่างมั่นใจ แต่ในบางองค์กรนั้น HR ยังไม่สามารถแสดงบทบาทดังกล่าวได้ หรืออาจไม่มีอำนาจตัดสินใจที่แท้จริง
แนวทางการแก้ไข:
💡 พัฒนาทักษะเชิงธุรกิจ: HR ควรสร้างโอกาสในการเข้าร่วมกิจกรรมในองค์กร ที่เกี่ยวข้องกับการตลาด การเงิน และการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มความเข้าใจในภาพรวมขององค์กร HR ที่เข้าใจเป้าหมายธุรกิจ จะสามารถช่วยออกแบบกลยุทธ์การบริหารบุคลากรให้สอดคล้องกับการเติบโตขององค์กร เช่น วางแผนกำลังคนให้สามารถรองรับเป้าหมายการขยายตลาดใหม่ เป็นต้น
💡 สร้างความสัมพันธ์กับฝ่ายบริหาร: HR ควรศึกษากลยุทธ์และแผนธุรกิจขององค์กรให้มากขึ้น เพื่อเข้าใจว่าผู้บริหารให้ความสำคัญกับอะไร เริ่มสนทนากับผู้บริหารสายงานอื่นๆ โดยเชื่อมโยงการบริหารทรัพยากรบุคคลเข้ากับผลลัพธ์ทางธุรกิจที่เขาสนใจ เพื่อสร้างเครือข่าย และใช้โอกาสจากการเข้าร่วมประชุมเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าไปมีส่วนร่วมในเชิงกลยุทธ์ เพื่อให้ได้รับการยอมรับในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจ
💡 จัดทำกรณีศึกษา: นำเสนอ/ประชาสัมพันธ์ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ผลกระทบเชิงบวก และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการนำรูปแบบการทำงานของ HRBP มาใช้ เพื่อเพิ่มการรับรู้ของผู้บริหาร
🧐 Fun Fact: ในบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง เช่น Google, Microsoft และ FedEx เป็นต้น HRBP มีที่นั่งในที่ประชุมระดับ C-Level เพื่อให้สามารถเสนอแนะกลยุทธ์ด้านคนที่สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. การขาดทักษะการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยี (Lack of Data & Digital Skills)

✅ HR จำนวนมากยังขาดความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลบุคลากรเชิงลึก (HR Analytics): ข้อมูลต่างๆ อาทิ อัตราการลาออกและสาเหตุ ระดับความผูกพันของพนักงาน เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ HRBP ต้องใช้ในการทำงานเชิงกลยุทธ์ แต่ HR ไทยยังขาดทักษะในการวิเคราะห์และใช้ข้อมูลเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์
✅ การเตรียมข้อมูลยังล่าช้า: HRBP ต้องสามารถใช้เทคโนโลยีในการจัดทำข้อมูลประกอบการตัดสินใจ แต่หลายองค์กรยังคงใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่ล้าสมัย หรือถึงแม้มีระบบที่ทันสมัย แต่ HR มักมีบทบาทในการจัดการข้อมูลเบื้องต้นมากกว่าการนำข้อมูลออกมาวิเคราะห์ ทำให้ต้องใช้เวลาในการจัดทำข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
แนวทางการแก้ไข:
💡 เข้ารับการฝึกอบรมด้าน HR Analytics: อาจเริ่มต้นจากการทดลองเรียนออนไลน์ฟรีจากองค์กร/เว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ ขอคำแนะนำจากนักวิเคราะห์ในแผนกต่างๆ ขององค์กร หรือฝึกฝนการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่องค์กรมีอยู่แล้ว เช่น ฟังก์ชันต่างๆ ใน Excel หรือการสร้าง Dashboard ใน Power BI เป็นต้น เพื่อเสริมสร้างทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลและการใช้เครื่องมือดิจิทัล
💡เรียนรู้และสร้างสรรค์แนวทางการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด: ความเข้าใจการทำงานของระบบต่างๆ อย่างถ่องแท้ ทำให้สามารถเรียกใช้งานข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ได้อย่างคล่องแคล่ว รวมถึงสามารถออกแบบและ/หรือบูรณาการเทคโนโลยีที่มีให้เข้ากับกระบวนการทำงานอื่นๆ ได้ ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นในภาพรวม
🧐 Fun Fact: องค์กรที่มีประสิทธิภาพสูงมีแนวโน้มที่จะใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์เฉพาะทางในการวิเคราะห์ข้อมูลบุคลากรมากกว่าองค์กรที่มีประสิทธิภาพต่ำถึง 2 เท่า (Deloitte)
4. การเมืองในองค์กรและทัศนคติแบบเดิม (Organizational Politics & Traditional Mindset)

✅ HRBP ต้องเผชิญกับการเมืองในองค์กรที่ซับซ้อน: หลายครั้ง HRBP ไม่สามารถเสนอแนะกลยุทธ์ที่เป็นประโยชน์ได้เต็มที่ เนื่องจากติดขัดกับความขัดแย้งภายในหรือนโยบายเดิมขององค์กร
✅ แนวคิดแบบเดิมยังเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลง: HR ในบางองค์กรยังติดอยู่กับการทำงานแบบเดิมๆ และไม่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ทำให้ยากต่อการพัฒนาไปสู่บทบาท HRBP ที่แท้จริง
แนวทางการแก้ไข:
💡 สื่อสารอย่างโปร่งใส: HR ควรเป็นผู้นำในการสื่อสารที่ชัดเจนและโปร่งใส ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง การสื่อสารที่สม่ำเสมอ การใช้แพลตฟอร์มที่ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ การใช้ข้อมูลสนับสนุนข้อเสนอหรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ รวมทั้งการเป็นตัวกลางในการเจรจาอย่างเป็นธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความขัดแย้งภายในองค์กร
💡 ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง: สร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมภายในองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทีม HR เอง HR ควรเป็นแบบอย่างในการปรับตัวและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เช่น
- การนำเทคโนโลยีมาใช้ในงาน HR เพื่อปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การกระตุ้นให้พนักงานทุกระดับมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น โดยสร้างช่องทางเปิดรับไอเดียใหม่ๆ และผลักดันให้เกิดโครงการนำร่อง (Pilot Projects) เพื่อทดสอบแนวคิดใหม่ก่อนนำไปใช้อย่างเต็มรูปแบบในองค์กร
เมื่อพนักงานเห็นว่า HR พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงและสนับสนุนไอเดียของพวกเขา วัฒนธรรมองค์กรก็จะค่อยๆ เปิดกว้างขึ้นและเอื้อต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนสิ่งใหม่ๆ เช่น
"HR ต้องเป็น Business Partner ซึ่งไม่ใช่คนที่อยู่ข้างหลัง Leader แต่เป็นคนที่อยู่ข้างๆ ไม่รอคำสั่งจากผู้นำ แต่ต้องมี Forward Thinking กล้าคิด กล้าตัดสินใจ ไม่กลัวที่จะทำอะไรผิดพลาด” – อภิชาติ ขันธวิธิ
Key Takeaways
อุปสรรค | แนวทางแก้ไข |
---|---|
1. ภาระงานธุรการที่รัดตัว | ใช้ HR Tech ต่างๆ เพื่อลดภาระงานเอกสารและเพิ่มเวลาสำหรับงานเชิงกลยุทธ์ |
2. การขาดความเฉียบคมทางธุรกิจและการสนับสนุนจากผู้บริหาร | พัฒนาทักษะทางธุรกิจ เรียนรู้กลยุทธ์องค์กร และเชื่อมโยงงาน HR เข้ากับเป้าหมายทางธุรกิจ เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับฝ่ายบริหาร |
3. การขาดทักษะการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยี | พัฒนาทักษะด้าน HR Analytics โดยอาจเริ่มจากการเรียนฟรี และฝึกฝนการใช้เครื่องมือที่องค์กรมีอยู่ เพื่อสามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด |
4. การเมืองในองค์กรและทัศนคติแบบเดิม | ใช้การสื่อสารอย่างโปร่งใส และส่งเสริมวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง โดยเริ่มเปลี่ยนแปลงจากภายในทีม HR เอง เพื่อให้ HR ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหาร และสามารถให้ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์ได้ |
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Q: HR จะสามารถมีบทบาทในเชิงกลยุทธ์ได้อย่างไร หากยังถูกมองว่าเป็นฝ่ายสนับสนุน?
A: HR ควรเข้าไปมีส่วนร่วมในแผนธุรกิจขององค์กร โดยศึกษากลยุทธ์ของบริษัทอย่างละเอียด จนสามารถระบุได้ว่า HR สามารถช่วยองค์กรให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างไร เช่น การพัฒนา Talent ที่ตอบโจทย์แผนระยะกลาง-ยาวขององค์กร หรือการออกแบบโครงสร้างองค์กรให้รองรับการขยายธุรกิจ เป็นต้น นอกจากนี้ HR ควรใช้ข้อมูลในการแสดงความคิดเห็นในวาระต่างๆ เช่น ผลกระทบต่อธุรกิจจากอัตราการลาออก หรือความสัมพันธ์ระหว่างการฝึกอบรมพนักงานกับประสิทธิภาพขององค์กร เพื่อให้ฝ่ายบริหารเห็นว่า HR มีบทบาทสำคัญในเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ฝ่ายสนับสนุน
Q: HRBP จำเป็นต้องมีทักษะด้านการวิเคราะห์ข้อมูลบุคลากร (HR Analytics) มากแค่ไหน?
A: HRBP ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Data Science แต่ต้องมีความสามารถในการอ่าน วิเคราะห์ และใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจในงาน HR เชิงกลยุทธ์ เช่น การใช้ข้อมูลเพื่อคาดการณ์อัตราการลาออกของพนักงาน หรือการวิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ ของกลุ่มพนักงานที่มีศักยภาพสูง เพื่อทำแผนการพัฒนาอาชีพเฉพาะกลุ่ม เป็นต้น การเรียนรู้ HR Analytics ช่วยให้ HR สามารถนำเสนอแผนงานที่มีข้อมูลสนับสนุน ทำให้ข้อเสนอมีความน่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับจากฝ่ายบริหารมากขึ้น
Q: องค์กรจำเป็นต้องมีตำแหน่ง HRBP แยกออกมาจาก HR ทั่วไป (HR Generalist) หรือไม่?
A: ไม่จำเป็น เพราะ HRBP ไม่ได้เป็นเพียงตำแหน่งงาน แต่ยังเป็นบทบาทที่ HR ทุกคนสามารถแสดงออกมาได้ โดย HRBP มีบทบาท 4 ด้าน ที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ อันได้แก่
- หุ้นส่วนทางกลยุทธ์ (Strategic Partner): HR ควรเข้าใจกลยุทธ์องค์กร และออกแบบแนวทางบริหารทรัพยากรบุคคลให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ
- ผู้เชี่ยวชาญงาน HR (Administrative Expert): HR ต้องสร้างระบบและกระบวนการ HR ที่มีประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น และใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์
- ผู้ดูแลและสร้างความผูกพันของพนักงาน (Employee Champion): HR ต้องดูแลความเป็นอยู่ของพนักงาน สร้างประสบการณ์พนักงานที่ดี (Employee Experience) และรักษาความผูกพันกับองค์กร
- ผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change Agent): HR ต้องสามารถนำพาองค์กรผ่านการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร หรือการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลก็ตาม
💬 คุณคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับอุปสรรคของ HRBP ในประเทศไทย?
📢 แชร์โพสต์นี้พร้อมแบ่งปันความคิดเห็นของคุณ ให้เพื่อน HR ได้เรียนรู้ไปด้วยกัน 🚀
👩🏻🏫 หรือหากใครพร้อมปรับเปลี่ยนบทบาทของตนเองไปสู่ความเป็น HRBP หรือต้องการปรับปรุงพัฒนางาน HR ที่ตนเองรับผิดชอบให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดหลักสูตร HRBP 5.0 ได้เลย
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- The HRBP's Evolving Strategic Role
- GenAI in HR: Slashing Costs, Boosting Efficiency
- Better people analytics for better workforce outcomes
- HR Skill set for Next ERA: บทบาทของ HR ยุคใหม่ ไม่ใช่แม่บ้านประจำองค์กร แต่คือแม่ทัพบัญชาการ
เกี่ยวกับผู้เขียน

ชนทยา สรณารักษ์
วิทยากรและที่ปรึกษาอิสระ ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRD) ผู้มีประสบการณ์การทำงานด้านทรัพยากรมนุษย์ (HR) มากกว่า 10 ปี ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การสรรหาบุคลากร การพัฒนาผู้นำและผู้มีศักยภาพสูง การจัดทำกลยุทธ์ด้าน HRD ไปจนถึงการบริหารจัดการความหลากหลาย (Diversity, Equity and Inclusion (DEI) ภายในองค์กร