
วันนี้มาเล่าเรื่องตอนที่ผมกลับจากเขมร/เวียดนาม มาทำงานในตำแหน่ง National Sales Manager-GT ที่ประเทศไทย
ผมมาในสถานการณ์สต๊อกล้นตลาด อาจมาจากสภาวะเศรษฐกิจด้วย และแน่นอน การลองของจากทีมงานย่อมมี และมันคือการพิสูจน์เราด้วยว่าเราจะบริหารจัดการทีมงานได้มั้ย
ช่วงแรกผมมาทำงาน ผมก็ทำงานตามคำสั่งของ Sales Director คือทำงานตามแนวทาง เพราะเราต้องใช้เวลาเรียนรู้ ผลประกอบการ การบริหารจัดการทีมงาน สภาพตลาด โครงสร้างขององค์กร ผมก็เจอรับน้องจากทีมงานคนหนึ่ง ส่งเมล์มาหาผมว่า ผมสั่งงานเยอะมากเกินไปทำไม่ทัน มันเยอะมากๆ ผมเห็นแล้วก็ไม่แปลกใจนะ เราก็รู้สึกว่ามากเกินไปจริงๆ แต่ด้วยความที่เราก็รับคำสั่งมา เลยรวบรวมแล้วส่งให้ไป
เราก็เรียนรู้นะว่าเราเองอาจจะให้งานมากจนเกินไป และขวัญกำลังใจจากการเปลี่ยนหัวหน้าเองก็คงมีส่วน ผมก็เมล์กลับพร้อมกับขอโทษที่มอบหมายงานมากเกินไป และผมจะนำมาสกรีนอีกรอบ แต่อย่างไรก็ตามมันคือไดเร็กชั่นของบริษัท ก็อยากให้น้องลองลิสต์มาว่า อันไหนสำคัญ-เร่งด่วน อันไหนสำคัญ-ไม่เร่งด่วน หรืออันไหนไม่รีบ (ตามกระบวนการ Time Management) เพื่อให้สามารถทำงานให้สำเร็จในส่วนที่สำคัญจริงๆ
ในส่วนโครงสร้างองค์การฝ่ายขายส่วนที่ผมดูแล ก็พบว่าเป็นโครงสร้างแบบลำดับชั้น Hierarchical Structure แต่มีความ Flat และมี Gap ซึ่ง ทำให้มีโอกาส Turnover สูง เพราะลำดับการบังคับบัญชามีช่องว่างมากเกินไป ผมจึงได้ปรึกษาหัวหน้าและนำเสนอโครงสร้างใหม่เป็นแบบ Divisional Structure คือการมีลำดับชั้นที่มากขึ้น และมีการมอบหมายงานพิเศษ ในแต่ละ Division ดูแลเช่น Channel / Training / Lao เพื่อให้สามารถพัฒนาทีมงานและสร้างโอกาสในการเติบโตในองค์กรได้ การจะปรับปรุงโครงสร้างองค์กร สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาคือ
- จำนวน Headcount และ Job grade แต่ละ level เมื่อเทียบกับแผนกอื่นๆ
- งบประมาณรวมทั้งแผนกของปีนี้และปีหน้า เพื่อมั่นใจว่าไม่ over budget เพราะต้องมองทั้ง กระบอกเงินเดือน ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน เช่น ค่าโรงแรม ค่าเช่ารถ เบี้ยเลี้ยง โบนัส เป็นต้น
- งบ Training เพื่อพัฒนาทีมงาน ในระยะยาว เพื่อให้เขาได้เติบโตในองค์กร
ผมใช้เวลาทำ 3 เดือน จนสามารถลด Turnover ที่มีคนออก 3-5 คนทุกเดือนลงได้ และก็ทำให้เราสามารถกลับมามีทีมงานที่แข็งแกร่งได้จากการมองภาพใหญ่และลงมือในภาพเล็ก
กลับไทยเจอของแข็ง: บทเรียนการบริหารจาก National Sales Manager
🌪️ผมมาในสถานการณ์สต๊อกล้นตลาด อาจมาจากสภาวะเศรษฐกิจด้วย และแน่นอน การลองของจากทีมงานย่อมมี และมันคือการพิสูจน์เราด้วยว่าเราจะบริหารจัดการทีมงานได้มั้ย
ช่วงแรกผมมาทำงาน ผมก็ทำงานตามคำสั่งของ Sales Director คือทำงานตามแนวทาง เพราะเราต้องใช้เวลาเรียนรู้ ผลประกอบการ การบริหารจัดการทีมงาน สภาพตลาด โครงสร้างขององค์กร ผมก็เจอรับน้องจากทีมงานคนหนึ่ง ส่งเมล์มาหาผมว่า ผมสั่งงานเยอะมากเกินไปทำไม่ทัน มันเยอะมากๆ ผมเห็นแล้วก็ไม่แปลกใจนะ เราก็รู้สึกว่ามากเกินไปจริงๆ แต่ด้วยความที่เราก็รับคำสั่งมา เลยรวบรวมแล้วส่งให้ไป
🤝เราก็เรียนรู้นะว่าเราเองอาจจะให้งานมากจนเกินไป และขวัญกำลังใจจากการเปลี่ยนหัวหน้าเองก็คงมีส่วน ผมก็เมล์กลับพร้อมกับขอโทษที่มอบหมายงานมากเกินไป และผมจะนำมาสกรีนอีกรอบ แต่อย่างไรก็ตามมันคือไดเร็กชั่นของบริษัท ก็อยากให้น้องลองลิสต์มาว่า อันไหนสำคัญ-เร่งด่วน อันไหนสำคัญ-ไม่เร่งด่วน หรืออันไหนไม่รีบ (ตามกระบวนการ Time Management) เพื่อให้สามารถทำงานให้สำเร็จในส่วนที่สำคัญจริงๆ
📉ในส่วนโครงสร้างองค์การฝ่ายขายส่วนที่ผมดูแล ก็พบว่าเป็นโครงสร้างแบบลำดับชั้น Hierarchical Structure แต่มีความ Flat และมี Gap ซึ่ง ทำให้มีโอกาส Turnover สูง เพราะลำดับการบังคับบัญชามีช่องว่างมากเกินไป
🏗️ผมจึงได้ปรึกษาหัวหน้าและนำเสนอโครงสร้างใหม่เป็นแบบ Divisional Structure คือการมีลำดับชั้นที่มากขึ้น และมีการมอบหมายงานพิเศษ ในแต่ละ Division ดูแลเช่น Channel / Training / Lao เพื่อให้สามารถพัฒนาทีมงานและสร้างโอกาสในการเติบโตในองค์กรได้
สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาในการปรับโครงสร้าง:
- จำนวน Headcount และ Job grade แต่ละ level เมื่อเทียบกับแผนกอื่นๆ
- งบประมาณรวมทั้งแผนกของปีนี้และปีหน้า เพื่อมั่นใจว่าไม่ over budget เพราะต้องมองทั้ง กระบอกเงินเดือน ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน เช่น ค่าโรงแรม ค่าเช่ารถ เบี้ยเลี้ยง โบนัส เป็นต้น
- งบ Training เพื่อพัฒนาทีมงาน ในระยะยาว เพื่อให้เขาได้เติบโตในองค์กร