ตอนที่ 8 : Crisis Management : การบริหารในภาวะวิกฤต

ตอนที่ 8 : Crisis Management : การบริหารในภาวะวิกฤต

Crisis Management (ตอนที่ 8): วิวัฒนาการจาก Basic สู่ AI-Driven

ตอนที่ 8 เราเดินทางกันมาเกินครึ่งทางของ Crisis Management แล้วนะครับทุกคน ผมอยากจะขอบคุณทุกคนในการติดตามบทความจากผมมาเสมอครับ

📜ระดับพื้นฐาน (Basic Level): หากมองในเชิงประวัติศาสตร์ Crisis Management เริ่มต้นจากการเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการจัดการภัยพิบัติและเหตุการณ์ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ โรงงานระเบิด หรือปัญหาสาธารณสุข องค์กรและรัฐต่าง ๆ อาศัยคู่มือและการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อม กระบวนการนี้เราสามารถเรียกว่า ระดับพื้นฐาน ซึ่งเน้นการวางแผน การซ้อมสถานการณ์จำลอง และการตอบสนองตามคู่มือที่กำหนดไว้

📈ระดับขั้นสูง (Advanced Level): เมื่อก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจสมัยใหม่ โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษ 1990–2000 Crisis Management ได้พัฒนาเข้าสู่ ระดับขั้นสูง ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน แต่ครอบคลุมถึงการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder Communication) การบริหารภาพลักษณ์องค์กร (Reputation Management) และการสร้าง Resilience เพื่อให้ธุรกิจสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังเผชิญวิกฤต องค์กรระดับโลกในช่วงนั้นเริ่มสร้าง Crisis Team โดยเฉพาะ มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยตรวจสอบสัญญาณเตือน

การจัดการวิกฤตในยุค AI

🤖 ระดับขับเคลื่อนด้วย AI (AI-driven Level)

แต่เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่ AI กลายเป็นหัวใจสำคัญ Crisis Management กำลังขยับเข้าสู่ ระดับขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งมีลักษณะเฉพาะดังนี้

หนึ่ง การตรวจจับและตอบสนองล่วงหน้า (Predictive & Proactive): AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย ระบบเครือข่าย หรือแม้แต่พฤติกรรมผู้ใช้ เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงก่อนที่จะปะทุเป็นวิกฤต

สอง การตอบสนองอัตโนมัติ (Automated Response): ระบบ Incident Response ที่ใช้ Machine Learning สามารถสั่งการขั้นต้นได้โดยไม่ต้องรอมนุษย์ เช่น การปิดพอร์ตที่ถูกโจมตี การย้ายโหลดไปยัง Cloud สำรอง หรือแม้แต่การสื่อสารเบื้องต้นกับผู้ใช้ผ่าน Chatbot

สาม การเรียนรู้ไม่รู้จบ (Continuous Learning & Resilience): ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เพียงถูกแก้ไข แต่ถูกเปลี่ยนเป็นข้อมูลเพื่อฝึกสอนโมเดล AI ทำให้ระบบแข็งแรงขึ้นทุกครั้งที่เจอปัญหา และสร้าง Playbook ใหม่ ๆ ที่อัปเดตอย่างต่อเนื่อง

จากการเปรียบเทียบทั้งสามระดับ เราจะเห็นเส้นทางวิวัฒนาการของ Crisis Management อย่างชัดเจน

ระดับพื้นฐานเน้นคู่มือ ระดับขั้นสูงเน้นกลยุทธ์และการสื่อสาร ขณะที่ระดับ AI-driven เน้นข้อมูล การคาดการณ์ และการตอบสนองเชิงระบบ องค์กรใดที่ยังอยู่เพียงระดับพื้นฐานย่อมเสี่ยงอย่างมากในโลกปัจจุบัน ขณะที่องค์กรที่พัฒนาไปถึงระดับ AI-driven จะไม่เพียงแค่รอดพ้นวิกฤต แต่ยังสามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นทรัพยากรในการเสริมสร้างความได้เปรียบทางกลยุทธ์

การเดินทางจาก Basic สู่ Advanced และต่อไปยัง AI-driven จึงไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่คือการเปลี่ยนวิธีคิดของผู้นำและวัฒนธรรมองค์กร ว่าจะยอมมองวิกฤตเป็นเพียงภัยที่ต้องดับ หรือจะมองมันเป็นครูที่สอนให้องค์กรแข็งแกร่งกว่าเดิม

เกี่ยวกับผู้เขียน

อาจารย์ ไกรกิติ ทิพกนก

Languages: EN I TH

Ready to join our knowledge castle?

Find the right program for your organization and achieve your goals today

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save