เคยรู้สึกว่าตัวเองไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่? หรือเคยรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอที่จะทำสิ่งที่อยากทำ? ความคิดเหล่านี้อาจเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้เราเติบโตได้อย่างเต็มที่ แต่รู้หรือไม่ว่าวิธีคิดของเรามีผลต่อความสำเร็จในชีวิตอย่างมาก
มุมมองแบบเติบโต (Growth Mindset) vs. มุมมองแบบตายตัว (Fixed Mindset)
• มุมมองแบบเติบโต: เชื่อว่าความสามารถและสติปัญญาสามารถพัฒนาได้ตลอดเวลา ผ่านการเรียนรู้ การฝึกฝน และประสบการณ์ใหม่ๆ
• มุมมองแบบตายตัว: เชื่อว่าความสามารถและสติปัญญาเป็นสิ่งที่กำหนดมาแต่เกิด และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ตัวอย่างในชีวิตจริง
• นักกีฬา: นักกีฬาที่มีมุมมองแบบเติบโตจะมองว่าการแพ้เป็นโอกาสที่จะปรับปรุงฝึกฝน และกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม ในขณะที่นักกีฬาที่มีมุมมองแบบตายตัวอาจรู้สึกท้อแท้และเลิกราไป
• พนักงาน: พนักงานที่มีมุมมองแบบเติบโตจะมองงานใหม่เป็นโอกาสที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และพัฒนาตนเอง ในขณะที่พนักงานที่มีมุมมองแบบตายตัวอาจรู้สึกกลัวที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ
วิธีพัฒนามุมมองแบบเติบโต
• ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายแต่ทำได้: การตั้งเป้าหมายที่สูงขึ้นจะกระตุ้นให้เราพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
• มองหาโอกาสในการเรียนรู้: ไม่ว่าจะเป็นการเข้าอบรม การอ่านหนังสือ หรือการเรียนรู้จากผู้อื่น
• ยอมรับความผิดพลาด: มองความผิดพลาดเป็นโอกาสที่จะเรียนรู้และปรับปรุง
• ฉลองความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ: การฉลองความสำเร็จจะช่วยเพิ่มกำลังใจและแรงบันดาลใจ
• ล้อมรอบตัวเองด้วยคนบวก: การพูดคุยกับคนที่มองโลกในแง่ดีจะช่วยให้เรามีพลังงานบวก
• ฝึกฝนการคิดเชิงบวก: เปลี่ยนความคิดเชิงลบเป็นความคิดเชิงบวก
สรุป
มุมมองแบบเติบโตเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในชีวิต การเปลี่ยนแปลงวิธีคิดเพียงเล็กน้อย อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต ดังนั้นลองฝึกฝนที่จะมองโลกในแง่ดี และเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองดูสิ คุณจะพบว่าชีวิตของคุณเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
คำถามกระตุกคิด:
• คุณมีแนวโน้มที่จะมีมุมมองแบบเติบโตหรือแบบตายตัวมากกว่ากัน?
• คุณจะนำแนวคิดของมุมมองแบบเติบโตไปปรับใช้ในการทำงานหรือชีวิตส่วนตัวได้อย่างไรบ้าง?
• คุณเคยเห็นตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จจากการมีมุมมองแบบเติบโตหรือไม่?
Post Views: 37