In-House Training Courses
NEGOTIATION & COMMUNICATION
ศาสตร์และศิลป์ของการนำเสนอและการเล่าเรื่องสำหรับมืออาชีพ
Pitchology for Professional
ที่มาและความสำคัญของการฝึกอบรม
ในการทำงานนอกเหนือจากกระบวนการและประสิทธิภาพของบุคลากรแล้ว ประเด็นที่สำคัญประการหนึ่งคือ “การนำเสนองาน” และ “การเล่าเรื่อง” (Presentation and Storytelling) เพราะหลายครั้งที่การทำงานและการตัดสินใจเกิดความไม่เข้าใจกันนั้นไม่ได้เกิดจากสาเหตุด้านเทคนิค ไม่มีความรู้ความเข้าใจ หรือบุคลากรทำงานไม่ได้แต่อย่างใด เพียงแต่เกิดจากการนำเสนอและเล่าเรื่องที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจเกิดมาจาก ความไม่เข้าใจผู้ฟัง การจับประเด็นที่ไม่ดี ไม่เข้าใจการเลือกใช้ข้อมูลที่เหมาะสม การคัดเลือกประเด็นสำคัญที่ชัด การสื่อความในการนำเสนอ ส่งผลให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจที่และตัดสินใจที่ไม่มีประสิทธิภาพ สิ้นเปลืองเวลา และเกิดปัญหาต่อเนื่องในการตัดสินใจและการทำงานตามมาอย่างมาก
หลักสูตร “Upgrade ทักษะการนำเสนองานและการเล่าเรื่องราวสำหรับมืออาชีพ”
หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเฉพาะบุคลากรที่ต้องมีการนำเสนองานอยู่เป็นประจำ เป็นหลักสูตรที่รวมเนื้อหาทุกอย่างแห่งการนำเสนองานและการเล่าเรื่องไว้ด้วยกัน โดยมี 3 องค์ประกอบหลักสำคัญนั่นคือ เข้าใจประเด็นและผู้รับสาร การใช้ข้อมูลที่เหมาะสม และ การนำเสนอที่ดี วิทยากรจะถ่ายทอดถึงหลักการและแสดงตัวอย่างที่ใกล้เคียงกับงานของผู้อบรม และถ่ายทอดผ่านการทำ Workshop เพื่อให้นำความรู้ทั้งหมดไปใช้งานได้จริงในทางปฏิบัติได้ทันที
วัตถุประสงค์ของการอบรม
- ผู้เข้าอบรมมีความเข้าใจภาพรวมของการนำเสนองานและการเล่าเรื่อง
- ผู้อบรมเข้าใจและฝึกปฏิบัติในเรื่องประเด็นการสื่อสาร และการทำความเข้าใจผู้รับสาร
- ผู้อบรมเข้าใจและฝึกปฏิบัติในเรื่องการใช้ข้อมูลและการแสดงผล การทำเอกสารที่เหมาะสม
- ผู้อบรมเข้าใจและฝึกปฏิบัติ การเล่าเรื่องและการนำเสนองานที่ดี
- ผู้อบรมสามารถนำวิธีการไปประยุกต์ใช้ในการนำเสนองานจริงได้ผ่านการฝึกปฏิบัติ
หัวข้อการฝึกอบรม
ครั้งที่ 1 “ STORYTELLING ”
Session |
ช่วงเวลา |
รายละเอียดเนื้อหา |
1 |
9:00-12:00 น. |
PITCHOLOGY: ศาสตร์และศิลป์ของการนำเสนอเพื่อโน้มน้าวใจ พื้นฐานการนำเสนอ : เรื่องราว สไตล์ สไลด์ · ประเภทของการเสนอโปรเจค ประเภทต่างๆ – Elevator pitch – Short form pitch, – Long form pitch. · ทฤษฎีการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับการนำเสนอ Workshop ฝึกการเขียนเพื่อโน้มน้าวใจ |
ครั้งที่ 2 “ STORYTELLING ”
Session |
ช่วงเวลา |
รายละเอียดเนื้อหา |
2 |
9:00-12:00 น. |
Follow up ผลการนำไปใช้: พูดคุยการนำเนื้อหาไปใช้งานและผลลัพธ์ วิทยากรสรุปผลรายบุคคล และเสนอแนะเพิ่มเติมในการใช้งาน เนื้อหาการเรียนรู้ครั้งที่ 2 หลักการวางโครงสร้างเนื้อหาที่โน้มน้าวใจ · เทคนิคการเล่าเรื่องโน้มน้าวใจ (Storytelling) – การสร้างวลี/ประโยคสำคัญ (Punch line) – เทคนิคการเล่าเรื่องรูปแบบต่างๆ – เทคนิคการเขียนโน้มน้าวใจ Workshop ฝึกการพูดเพื่อโน้มน้าวใจ |
ครั้งที่ 3 “ SLIDEOLOGY ”
Session |
ช่วงเวลา |
รายละเอียดเนื้อหา |
3 |
9:00-12:00 น. |
Follow up ผลการนำไปใช้: พูดคุยการนำเนื้อหาไปใช้งานและผลลัพธ์ วิทยากรสรุปผลรายบุคคล และเสนอแนะเพิ่มเติมในการใช้งาน เนื้อหาการเรียนรู้ในครั้งที่3 Pitching Deck และเครื่องมือต่างที่ใช้ในการนำเสนอให้มีประสิทธิภาพ · Slideology: กฎสำหรับการสร้างสไลด์ Workshop ฝึกการสร้างสไลด์เพื่อโน้มน้าวใจ |
ครั้งที่ 4 “ SLIDEOLOGY ”
วันที่ 2/1-2/2 |
9:00-12:00 น. |
Follow up ผลการนำไปใช้: พูดคุยการนำเนื้อหาไปใช้งานและผลลัพธ์ วิทยากรสรุปผลรายบุคคล และเสนอแนะเพิ่มเติมในการใช้งาน เนื้อหาการเรียนรู้ในครั้งที่4 Pitching Deck และเครื่องมือต่างที่ใช้ในการนำเสนอให้มีประสิทธิภาพ · Slideology: กฎสำหรับการสร้างสไลด์ Workshop ฝึกการสร้างสไลด์เพื่อโน้มน้าวใจ |
ครั้งที่ 5 “ PITCHING ”
Session |
ช่วงเวลา |
รายละเอียดเนื้อหา |
วันที่ 3/1 |
9:00-12.00 น. |
Follow up ผลการนำไปใช้: พูดคุยการนำเนื้อหาไปใช้งานและผลลัพธ์ วิทยากรสรุปผลรายบุคคล และเสนอแนะเพิ่มเติมในการใช้งาน เนื้อหาการเรียนรู้ในครั้งที่4 เทคนิคการสร้างบุคลิกภาพที่โน้มน้าวใจ และเกิดความประทับใจแรก · การจัดการอาการตื่นเวทีและความผิดพลาด – Workshop : บุคลิกภาพสำหรับการนำเสนอ · เทคนิคการนำเสนอข้อเสนองบประมาณที่โน้มน้าวใจในการนำเสนอ · เทคนิคการคำถามและคำตอบที่โน้มน้าวใจ ผู้ฟังการนำเสนอ – Workshop : การนำเสนอ · การประเมินผลการนำเสนอและปรับปรุงการนำเสนอ – เทคนิคการรับคำติชมเพื่อการพัฒนา Pitching |
ครั้งที่ 6 “ PITCHING ”
Session |
ช่วงเวลา |
รายละเอียดเนื้อหา |
6 |
09:00-12:00 น. |
Follow up ผลการนำไปใช้: พูดคุยการนำเนื้อหาไปใช้งานและผลลัพธ์ วิทยากรสรุปผลรายบุคคล และเสนอแนะเพิ่มเติมในการใช้งาน เนื้อหาการเรียนรู้ในครั้งที่5 Workshop การนำเสนองานและการเล่าเรื่องโดยใช้ความรู้ทั้งหมด · ผู้อบรมทุกท่านทำการนำเสนองานและการเล่าเรื่องที่เตรียมตัวมาโดยใช้เทคนิคที่ได้เรียนรู้ทั้งหมด · ผู้ร่วมอบรมทำการ Discuss แลกเปลี่ยนเพื่อวิเคราะห์เทคนิครูปแบบที่ผู้ร่วมอบรมแต่ละท่านได้ใช้ วิทยากรให้ข้อเสนอแนะแลกเปลี่ยน · วิทยากรสรุปการเรียนรู้ |
หมายเหตุ : เนื้อหาสามารถปรับได้ตามความเหมาะสมในระหว่างการเรียนการสอน เพื่อให้สอดคล้องกับผลลัพธ์ที่องค์กรต้องการ
วิธีการดำเนินหลักสูตร
- เพื่อให้การถ่ายทอดองค์ความรู้สามารถนำไปสู่ประโยชน์ต่อองค์กรและสอดคล้องกับบริบททางธุรกิจของแต่ละองค์กร เนื้อหาหลักสูตรจะได้รับการออกแบบให้เหมาะสมและตามความต้องการเฉพาะของแต่ละองค์กร (Customized) โดยดำเนินการจัดอบรมภายในองค์กร (In House Training) ในวันและเวลาที่องค์กรสะดวกและบุคลากรมีความพร้อมในการเข้าอบรมอย่างพร้อมเพรียง
- เน้นรูปแบบการอบรมเชิงปฏิบัติการควบคู่กับทฤษฎี และกรณีตัวอย่าง เพื่ออธิบายประมวลสรุปให้บุคลากรผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความเข้าใจและมีทักษะเบื้องต้นเพียงพอในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ต่อไป
- กิจกรรมการเรียนรู้ เสวนากลุ่มและการระดมความคิด “หาปัญหาและอุปสรรคของการเรียนรู้งานที่เขาพบในองค์กร ร่วมกันวิเคราะห์ทำความเข้าใจปัญหา สาเหตุ และผลกระทบของระบบการทำงานที่ก้าวไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในปัจจุบันซึ่งพบได้ในแทบทุกองค์กร เพื่อระบุข้อดี(จุดแข็ง)และทิศทางโอกาสในการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการความรู้ในองค์กร แล้วให้พวกเขาช่วยกันเขียนวิธีต่างๆ ที่ทำให้พวกเขาสามารถเรียนรู้งานได้ดีขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้พวกเขามีส่วนร่วมในการวางระบบการเรียนรู้ในองค์กร (Knowledge Flow)
กิจกรรมการเรียนรู้2. “เรียนรู้ร่วมกันผ่านกิจกรรมกลุ่ม “Futuristic & Change” เพื่อให้ผู้เรียนค้นพบจุดเสีย และจุดเด่นของตนด้วยตนเอง ฝึกการทำงานเป็นทีม ร่วมกันวิเคราะห์ทำความเข้าใจปัญหา สาเหตุ และผลกระทบของการทำงานที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ทีมขาดเอกภาพในการดำเนินตามยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลง แล้วเปิดโอกาสให้พวกเขาช่วยกันสรุปบทเรียนจากกิจกรรม เพื่อกำหนดทิศทางโอกาสในการปรับปรุงระบบการทำงานร่วมกันเพื่ออนาคต
แนวทางที่ใช้ในการอบรม
แนวทางการสัมมนาและรูปแบบการเรียนรู้ : ทฤษฎี 20 : ปฏิบัติ 80
บรรยาย ถ่ายทอดความรู้ให้ผู้เข้าอบรม
กิจกรรมกลุ่มระดมความคิด ผู้เข้าอบรมได้เข้าไป “มีส่วนร่วม”
ตัวอย่าง/กรณีศึกษาประกอบ เพื่อเห็น “ภาพที่ชัดเจน” มากยิ่งขึ้น
การเสวนาตีความ วิเคราะห์เพื่อเข้าใจให้เชิงลึกเพื่อการประยุกต์ใช้
- การสัมมนาใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ (Adult Learning) ด้วยวิธีการบรรยายควบคู่กับการปฏิบัติ เน้นการบรรยายแบบให้ผู้เข้าสัมมนาเป็นศูนย์กลางการอบรมการตั้งประเด็นคำถามเพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิด แลกเปลี่ยนประสบการณ์ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและนำเสนอ เพื่อให้เกิดความเข้าใจเนื้อหาอย่างแท้จริง และ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที
- เนื้อหาของโปรแกรมมีทั้งการบรรยายให้ความรู้, การฝึกปฏิบัติการ (Work Shop), กรณีศึกษาและสถานการณ์จำลอง (Case Study and Simulation) และ การนำเสนอ (Present) ทำให้การเรียนรู้ เกิดเข้าใจด้วยตัวเองอย่างแท้จริง
Ready to join our knowledge castle?
Find the right program for your organization and achieve your goals today