In-House Training Courses

หลักการและแนวคิด

ในปัจจุบันที่การแข่งขันเพื่อแย่งชิงลูกค้ามีความเข้มข้น ในเวลาเดียวกับที่เทคโนโลยีทำให้รูปแบบในการเลือกซื้อสินค้า หรือ การ Shopping มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วแล้วแตกต่างออกไปจากที่เคยเป็นมา ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคาและข้อเสนอได้ก่อนที่จะมาถึงร้าน หรือแม้แต่สามารถซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้องมาที่ร้าน การเปลี่ยนจากเลือกซื้อที่ร้านหนึ่งไปยังอีกร้านหนึ่ง ทำได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ร้านใดไม่ว่า Online หรือ Offline ที่สามารถสร้างประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้า หรือ Shopping Experience ได้ดีกว่า ย่อมทำให้ลูกค้าพึงใจที่จะใช้เวลากับร้านนั้นมากกว่า ซึ่งส่งผลให้โอกาสการขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

จากการศึกษาของ Marcos González de La-Hoz จาก IE University ประเทศสเปน ได้ทำการศึกษาเมื่อปี 2016 พบว่า ร้านที่ให้ประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้า หรือ Shopping Experience ที่ดีกับลูกค้า มียอดขายที่เพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 20% หลังผ่านไป 4 เดือน

Shopping Experience เป็นส่วนหนึ่งของTrade Marketing และ Shopper Marketing โดยในหลักสูตรนี้จะเน้นในส่วนของการสร้าง Shopping Experience ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของ หรือเพิ่มโอกาสในการขาย ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนทีสำคัญ

ส่วนแรกคือ ความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า (Shopping Convenience) หรือการจัดสภาพแวดล้อมเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวก ไม่ติดขัด และเกิดความเพลิดเพลินในการเลือกซื้อสินค้า การสร้างอารมณ์ (Mood Enhancement) ด้วยการปรับสภาพแวดล้อมที่ทำให้ลูกค้าอยู่ในอารมณ์ หรือ Mood ที่ดี มีความเพลิดเพลิน เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการขาย และ เรื่องของการให้บริการ (Satisfying Service) ที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าที่ด้านการตลาด (Marketing) และการตลาดร้านค้า (Trade Marketing) ผู้ที่ต้องดูแลร้านค้าปลีกทั้งแบบ Online และ Offline รวมถึงผู้ที่รับผิดชอบด้านการขาย (Sales) และผู้ที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการขายทาง Touch Point ในการขายสินค้าหรือบริการต่างๆ

วัตถุประสงค์

1. เพิ่มโอกาสในการขาย และยอดขายของสินค้าและบริการ
2. ผู้เข้าอบรมมีความเข้าใจหลักการของการสร้างสรรค์ Shopping Experience
3. ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้เกี่ยวกับ Shopping Experience ไปประยุกต์ใช้ทำแผนสำหรับการปฏิบัติการที่จุดขาย (Point of Purchase) ได้

วิธีการ-จุดเน้น-และการติดตามผล

ลักษณะของการอบรมในช่วงต้นเป็นการบรรยายเพื่อให้ผู้เรียนมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับหลักการที่เกี่ยวข้องกับ Shopping Experience ในช่วงถัดไปจะเป็นการบรรยายสลับกับการปฏิบัติ (60:40) เช่น การฝึกปฏิบัติการ (Work Shop) โดยเน้นการสร้างทักษะจากการปฏิบัติ เช่น การจัดทำแผนปรับปรุง Point of Purchase เพื่อพัฒนา Shopping Experience เป็นต้น

ในส่วนการติดตามผล วิทยากรจะให้ผู้เข้ารับการอบรมนำทักษะที่ได้เรียนไปใช้ในการทำแผนเพื่อพัฒนา Shopping Experience และส่งข้อมูลให้วิทยากรประเมินหลังจากการฝึกอบรมแล้วประมาณ 3 เดือน (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการขององค์กรด้วย)

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับบุคลากรระดับปฏิบัติการ และระดับบริหารขั้นต้นถึงระดับกลาง โดยเฉพาะจากหน่วยงานการตลาดร้านค้า การขาย และการตลาดทั่วไป

หัวข้อการฝึกอบรม

วิธีการฝึกอบรม

            บรรยาย กรณีศึกษา (Case Study) อภิปรายแลกเปลี่ยน และการฝึกปฏิบัติการ (Work Shop)

ผู้เข้ารับการฝึกอบรม

            ผู้เกี่ยวข้องในระดับปฏิบัติการและระดับบริหารขั้นต้นถึงระดับกลาง จำนวน 30 คน

ระยะเวลาการฝึกอบรม

ระยะเวลาการฝึกอบรม 1 วัน

แนวทางที่ใช้ในการอบรม

แนวทางการสัมมนาและรูปแบบการเรียนรู้ : ทฤษฎี 60 : ปฏิบัติ 40

บรรยาย                                   ถ่ายทอดความรู้ให้ผู้เข้าอบรม

กิจกรรมกลุ่มระดมความคิด    ผู้เข้าอบรมได้เข้าไป “มีส่วนร่วม”

ตัวอย่าง/กรณีศึกษาประกอบ    เพื่อเห็น “ภาพที่ชัดเจน” มากยิ่งขึ้น

• การสัมมนาใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ (Adult Learning) ด้วยวิธีการบรรยายควบคู่กับการปฏิบัติ เน้นการบรรยายแบบให้ผู้เข้าสัมมนาเป็นศูนย์กลางการอบรมการตั้งประเด็นคำถามเพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิด แลกเปลี่ยนประสบการณ์ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและนำเสนอ เพื่อให้เกิดความเข้าใจเนื้อหาอย่างแท้จริง และ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที
• เนื้อหาของโปรแกรมมีทั้งการบรรยายให้ความรู้ พร้อมการฝึกปฏิบัติการ (Work Shop) อภิปรายแลกเปลี่ยน และกรณีศึกษา (Case Study) ทำให้การเรียนรู้เกิดจากกาเข้าใจด้วยตัวเองอย่างแท้จริง