ใครในองค์กรคุณ คือคนที่ไม่มีใครเห็น… แต่ทุกอย่างจะสั่นไหวถ้าเขาหายไป

ใครในองค์กรคุณ คือคนที่ไม่มีใครเห็น… แต่ทุกอย่างจะสั่นไหวถ้าเขาหายไป

ทำไม “Leading KPI” จึงสำคัญกว่าที่เราเคยมองเห็น

และทำไมคนที่เข้าใจ QA จึงมีอาวุธที่ QC ไม่มี

ในโลกของการทำงานจริง ไม่ใช่ทุกคนจะฟังเหตุผลเพียงเพราะมัน “ถูก”
หลายครั้ง ความถูกต้องกลับถูกตีความว่าเป็นการท้าทาย
โดยเฉพาะเมื่อปลายทางของถ้อยคำนั้นไปกระทบ “Ego” ของใครบางคนโดยไม่ตั้งใจ
ยิ่งคนที่กลัวการถูกวิจารณ์ ยิ่งระแวดระวังคำพูดธรรมดาของเรา
เพราะเขาไม่ได้ยินแค่ว่า “สิ่งนี้ควรปรับ”
แต่เขาได้ยินว่า “คุณไม่ดีพอ”
ในสถานการณ์แบบนี้ การใช้คำพูดที่ “นุ่มแต่ไม่อ่อน” และ “ชัดแต่ไม่ทิ่มแทง”
คือกุญแจสำคัญที่จะไม่เพียงรักษาความสัมพันธ์ แต่ยังขับเคลื่อนงานได้จริง

ลองใช้ 3 เทคนิคต่อไปนี้ หากคุณอยากให้เขาฟัง…โดยไม่รู้สึกว่ากำลังแพ้
1. Technique: Positive Sandwich
(ชม – ขอปรับ – ปิดด้วยความร่วมมือ)
เพราะไม่มีใครอยากเริ่มบทสนทนาด้วยคำว่า “คุณควรทำแบบนี้”
จงเริ่มด้วยการชื่นชมในสิ่งที่เขาทำได้ดี
แล้วค่อยเชิญชวนให้ร่วมมือในการ “เสริมจุดแข็งให้เต็มขึ้น”
ปิดท้ายด้วยการส่งสัญญาณว่า “เราจะทำสิ่งนี้ไปด้วยกัน ไม่ใช่โยนให้คุณลำพัง”
ตัวอย่าง
“ผมว่าคุณวางแกนของไอเดียนี้ไว้ดีมากเลยครับ ดูมีประสบการณ์อยู่ในนั้น
ผมขอเสนออีกมุมหนึ่งเพิ่มเข้าไปดูไหมครับ เผื่อจะทำให้มันยิ่งเฉียบขึ้น
เดี๋ยวผมลองร่าง rough ไว้ให้ แล้วเราค่อยดูด้วยกันอีกทีครับ”

2. Technique: Emotion Labelling
(สะท้อนอารมณ์ แทนการโต้แย้ง)
เมื่ออีกฝ่ายเริ่มตั้งการ์ด แทนที่จะสวนกลับด้วยเหตุผลหรือโต้ด้วยพลัง
ให้ “สะท้อนสิ่งที่เขาน่าจะรู้สึก” ออกมาก่อน
เพราะทันทีที่เขารู้ว่า “คุณฟังด้วยใจ ไม่ใช่เพื่อหาจุดผิด”
เขาจะลดการป้องกัน และเปิดพื้นที่ให้เหตุผลของคุณค่อย ๆ แทรกตัวเข้าไป
ตัวอย่าง
“ผมเข้าใจนะครับว่ามันน่าหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน ที่ทำงานหนักแต่ยังรู้สึกเหมือนโดน challenge ตลอด
ผมเองก็ไม่ได้อยากให้คุณต้องปวดหัวนะครับ แค่คิดว่าถ้าเราร่วมกันปรับจุดนี้ มันอาจช่วยให้ภาพรวมลื่นขึ้นก็เลยลองเสนอไว้ดู”

3. Technique: Use “We” Not “You”
(เปลี่ยนจากการชี้นิ้ว → เป็นการสร้างทีม)
แค่เปลี่ยนคำขึ้นต้นของประโยค จาก “คุณต้อง…” เป็น “เราน่าจะ…”
อำนาจของคำพูดก็เปลี่ยนทันที
จากเดิมที่เหมือนการสั่งกลายเป็นการชวน
จากเดิมที่เหมือนการชี้ผิดกลายเป็นการพายเรือด้วยกัน
ตัวอย่าง
“เราน่าจะลองวาง flow ใหม่อีกนิดไหมครับ จะได้เชื่อมกับส่วนของทีมออกแบบได้สมูธขึ้น”
หรือ
“เราน่าจะลองรีเช็ค timeline ดูอีกที เผื่อปรับตรงกลางให้ไม่กดดันกันเกินไปครับ”

การสื่อสารกับคนที่มี Ego สูง ไม่ใช่เรื่องของการประจบ
แต่คือศิลปะของการทำให้เขารู้ว่า “เขาไม่ถูกทิ้ง” และ “ไม่ถูกลดค่า”
เมื่อคนรู้สึกปลอดภัยพอ เขาจะฟัง
เมื่อเขารู้ว่าคุณเห็น “เจตนาดี” ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความแข็งกระด้างของเขา
เขาอาจไม่เปลี่ยนทันที…แต่เขาจะเริ่ม “หยุดป้องกัน”
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการร่วมมือที่แท้จริง
เพราะการทำงานกับใครสักคน ไม่ได้ต้องเริ่มจากความเข้าใจหรอก
แค่เริ่มจากความ เคารพในมนุษย์อีกคนหนึ่งที่ยังมีบาดแผล
มันก็เพียงพอแล้ว ที่จะสร้างพื้นที่ให้เหตุผลเดินทางไปถึงใจ

ใครในองค์กรคุณ คือคนที่ไม่มีใครเห็น… แต่ทุกอย่างจะสั่นไหวถ้าเขาหายไป

👤ในทุกองค์กร มักมีใครบางคนที่ไม่ได้อยู่หน้าฉาก ไม่ได้พูดเสียงดัง ไม่มีสปอตไลต์จับ ไม่มีตำแหน่งหรูหรา ไม่มีคำชมพรั่งพรูในที่ประชุม แต่เขากลับเป็นคนที่ทำให้ “ทุกอย่างเดินไปได้” โดยที่แทบไม่มีใครรู้

เขาอาจคือคนที่จัดการเอกสารก่อนทุกการประชุม

คือคนที่คอยฟังทุกฝ่ายโดยไม่ตัดสิน

คือคนที่รู้ว่าใครกำลังเหนื่อยแม้ไม่มีใครพูดออกมา

คือคนที่เชื่อมจุดระหว่างความคิดต่าง ให้ไม่เกิดแรงกระแทก

คนทำงานเบื้องหลัง

🤝เขาอาจไม่ใช่ผู้นำอย่างเป็นทางการ แต่เขาคือ ตัวเชื่อมของความไว้ใจ คือ “พื้นที่ปลอดภัย” ที่คนในทีมกลับมาหาเสมอ คือผู้ที่ช่วยพยุงทิศทางขององค์กรไว้โดยไม่ต้องยกมือขึ้นพูด

🔗เขาคือคนที่ถูกวางไว้ในตำแหน่งซึ่งอาจดูไร้ความสำคัญ แต่กลับเป็นจุดที่รองรับแรงทั้งหมดของทีม เป็นจุดที่เชื่อมโยงเจตนาของคนทั้งกลุ่มให้ไหลเวียนอย่างไม่สะดุด เป็นจุดที่ไม่มีใครมองเห็น… แต่ถ้าหายไป ทุกอย่างจะสั่นไหว

เขาไม่ใช่คนที่ทำให้องค์กร “ว้าว”
แต่เขาคือคนที่ทำให้องค์กร “อยู่”

🌱เขาไม่ได้ทำให้คนทั้งโลกจำชื่อ แต่เขาทำให้คนในทีม กล้าเดินต่อ กล้าเติบโต กล้าเผชิญ กล้าล้ม และกล้าลุกขึ้นใหม่

ทีมที่มั่นคง
คำถามสำคัญไม่ใช่แค่ “ใครคือคนเก่งที่สุดในทีมของคุณ”
แต่คือ “ใครคือคนที่เงียบที่สุด…แต่ขาดไม่ได้ที่สุด”

🌟และเมื่อคุณมองเห็นเขา วันนั้นทั้งทีมของคุณจะมั่นคงกว่าเดิมอย่างไม่มีข้อแม้

เกี่ยวกับผู้เขียน

อาจารย์ ไกรกิติ ทิพกนก

Languages: EN I TH

Ready to join our knowledge castle?

Find the right program for your organization and achieve your goals today

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save