ตอนที่ 3: Reframe & Chunking – 2 มุมมองที่เปลี่ยนวิธีคิด

ตอนที่ 3: Reframe & Chunking – 2 มุมมองที่เปลี่ยนวิธีคิด

เปลี่ยนกรอบ เปลี่ยนมุมมอง: 2 เทคนิคปรับความคิดเพื่อหาทางออกใหม่

“ถ้าเปลี่ยนกรอบ → ชีวิตเปลี่ยน, ถ้าเปลี่ยนมุมมอง → ปัญหาก็เปลี่ยน”

🔄1.Reframe – เปลี่ยนกรอบความคิด

  • - จาก “ล้มเหลว = แพ้” → “ล้มเหลว = บทเรียน”

เปลี่ยนจากการมองลบเป็นมองบวก

  • • ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นข้อมูลสะท้อนว่าอะไรใช้ได้ผล อะไรยังไม่สำเร็จ
  • • ทุกครั้งที่ล้มเหลว เราจะได้ Feedback ที่ชัดเจนเพื่อพัฒนาครั้งต่อไป

เปลี่ยนจากผลลัพธ์ → กระบวนการ

  • • การล้มเหลวไม่ใช่การตัดสินตัวตน แต่คือผลลัพธ์ชั่วคราวของกระบวนการเรียนรู้
  • • ถ้าเรายังไม่หยุด ความล้มเหลววันนี้จะเป็นเพียงบันไดสู่ความสำเร็จ

สร้างพลังใจจากความหมายใหม่

  • • “แพ้” ทำให้หมดแรงและสิ้นหวัง
  • • “บทเรียน” ทำให้มีแรงและทิศทางในการพัฒนา

ตัวอย่างการใช้จริง

  • • นักธุรกิจ: ขาดทุนในโปรเจกต์หนึ่ง → บทเรียนเรื่องการวิเคราะห์ความเสี่ยง
  • • พนักงาน: ถูกปฏิเสธงานที่สมัคร → บทเรียนในการปรับปรุงทักษะและการนำเสนอ
  • • นักกีฬา: แพ้การแข่งขัน → บทเรียนในการฝึกซ้อมและเตรียมความพร้อมที่ดีกว่า

สรุป

  • ความล้มเหลวไม่ใช่ “จุดจบ” แต่เป็น “ข้อมูลสำหรับการเติบโต”
มองปัญหาผ่านเลนส์ที่แตกต่าง

🔍2. Chunking – การปรับระดับความคิด

Chunk Up → มองภาพรวมเพื่อหาความหมายที่ใหญ่กว่า

ตัวอย่าง:

  • • ปัญหา: “ทีมทำงานช้า”
  • • Chunk Up: เพราะอะไรต้องทำงานเร็วขึ้น? → เพื่อให้องค์กรแข่งขันได้ → เพื่อเป้าหมายระยะยาวขององค์กร → เชื่อมต่อกับเป้าหมายส่วนตัวของสมาชิก เช่น ความก้าวหน้า รายได้ หรือความภาคภูมิใจ

วิธีแก้: ใช้ Vision ขององค์กร และผูกเข้ากับ ความฝัน/คุณค่าของแต่ละคน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ

o Chunk Down → ย่อยปัญหาใหญ่ให้เล็กลง แก้ทีละขั้น

  • • ปัญหา: “ยอดขายไม่ดี”
  • • Chunk Down: แยกเป็น → ทีมขายโทรหาลูกค้าน้อย → ลูกค้าไม่ตอบสนอง → การปิดการขายไม่สำเร็จ
  • • วิธีแก้: เพิ่มจำนวนการโทร, ปรับสคริปต์การขาย, สอนทักษะการปิดการขาย

o Chunk Sideway → มองหาตัวเลือกที่ “เทียบเคียง” หรือ “คล้ายกัน” เพื่อเปิดมุมมองใหม่

ตัวอย่าง:

  • • ลูกค้าบอก: “สินค้า A แพงเกินไป”
  • • Chunk Sideway: เสนอสินค้า B ที่คุณภาพใกล้เคียงในราคาย่อมเยา หรือบริการเสริมที่ตอบโจทย์งบประมาณ
  • • อีกกรณี: พนักงานลาไม่ได้ช่วงนี้ → เสนอเปลี่ยนเป็น “Work from home” หรือ “ปรับเวลาทำงานยืดหยุ่น”

🎯เทคนิคทั้งสองนี้เป็นเหมือน “ปุ่มปรับเลนส์” ของสมองช่วยให้เราหาทางออกที่หลากหลายกว่าที่เคยเห็น

เกี่ยวกับผู้เขียน

เอกกร บุญรนะสิน

Languages: TH

Ready to join our knowledge castle?

Find the right program for your organization and achieve your goals today

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save